วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

งานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ” จ.สุราษฎร์ธานี

มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
ถ่ายทอดตัวอย่างความสำเร็จ “พัฒนาน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ”
วันที่(๑๗ มีนาคม ๒๕๕๗) ดร.รอยล  จิตรดอน กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ”
ณ สุราษฎร์ธานี ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยจัดขึ้น เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และความรู้ตัวจากอย่างความสำเร็จของการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ให้กับหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ที่เข้าร่วมงาน
๕๓ ชุมชน รวมทั้งชุมชนในพื้นที่ ลุ่มน้ำ และมี ๒๘ แบบอย่างความสำเร็จของการประยุกต์ใช้แนวพระราชดำริ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ที่มีความแตกต่างกันตามภูมิสังคม กระจายอยู่ทั่วประเทศ พร้อมที่จะถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้ และความสำเร็จ เพื่อขยายผลไปยังชุมชนอื่น
ไปขยายผลสู่ชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาเรื่องน้ำกิน น้ำใช้ น้ำทำการเกษตร และนำไปปรับใช้เพื่อให้คนในท้องถิ่นมีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ พัฒนาน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริจะจัดขึ้นในแต่ละภูมิภาค เพื่อให้ทุกภาคส่วนและประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงานได้อย่างทั่วถึง โดยงานสัมมนาครั้งแรกได้จัดขึ้นแล้วที่ภาคเหนือ เมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา


ดร.รอยลฯ กล่าวว่า การดำเนินงานของมูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้น้อมนำหลักการทรงงานและพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นกรอบการดำเนินงาน ๓ ด้าน คือ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา โดยงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พัฒนาน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ” เป็นส่วนหนึ่งของงาน “เข้าใจ” เพื่อถ่ายทอดความสำเร็จที่เกิดจากการ พัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ให้สาธารณชน โดยเฉพาะผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้กับท้องถิ่นตนเอง ซึ่งปัจจุบัน มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ มีเครือข่ายการจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ

มูลนิธิอุทกพัฒน์ฯ ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น จัดงานสัมมนาครั้งนี้ เพื่อให้จังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ รวมทั้งสถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และประชาชนที่สนใจจากแต่ละจังหวัด เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะผู้นำท้องถิ่นที่เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่น จะได้ถ่ายทอดความรู้และความสำเร็จที่ได้รับจากงานสัมมนา