พิธีประกาศผลและมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด “พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2558”
วันที่ 29 เมษายน 2559 ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลผู้ชนะการประกวด “พี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2558” ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ซึ่งมีคณะครูและนักเรียน โรงเรียนต่างๆ เยาวชน และผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมงาน
การประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2558 มีกลุ่มเยาวชนผ่านเข้าสู่รอบตัดสินจำนวน 9 กลุ่ม จากทั้งหมด 40 กลุ่ม ซึ่งคณะทำงานและกรรมการตัดสิน ได้เดินทางไปติดตามผลการดำเนินงานของกลุ่มเยาวชนทั้ง 9 กลุ่มในพื้นที่ จากนั้นกลุ่มเยาวชนที่ผ่านเข้ารอบได้มาเข้าร่วมกิจกรรมค่ายและพิธีประกาศผล ระหว่างวันที่ 26 – 29 เมษายน 2559 ณ อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เพื่อนำเสนอผลสำเร็จของโครงการ รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ร่วมกัน ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง พร้อมกับศึกษาดูงานที่โครงการสวนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.เพชรบุรี
สำหรับผู้ชนะเลิศการประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำ ตามแนวพระราชดำริ พ.ศ. 2558 ได้แก่ โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์ กรุงเทพฯ ซึ่งโดดเด่นในเรื่องการตั้งเครือข่ายบริหารจัดการน้ำในชุมชน ร่วมฟื้นฟูทางน้ำเข้าออกของแก้มลิงหนองบอน ร่วมกันกำจัดวัชพืชและบำบัดน้ำเน่าเสีย โดยใช้ถังดักไขมันและธรรมชาติบำบัดธรรมชาติ
ส่วนรางวัลรองชนะเลิศ มีกลุ่มเยาวชนได้รับรางวัล 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแกนนำเยาวชนเพาะพันธุ์กล้าไม้ตำบลขุนควร อำเภอปง จังหวัดพะเยา ซึ่งดำเนินงานอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำ และสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น และ กลุ่มเยาวชนคนดีศรีสวนพล ทำดีถวายในหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ดำเนินงานรักษาแหล่งน้ำในชุมชนเพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้งน้ำหลาก โดยการสร้างฝายมีชีวิตร่วมกับชุมชนและหน่วยงานภายนอก ช่วยให้แหล่งน้ำมีระบบนิเวศดีขึ้น
การประกวดพี่นำน้องรักษ์น้ำตามแนวพระราชดำริ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 และจัดประกวดต่อเนื่องมาแล้ว 7 ปี ดำเนินงานภายใต้มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เป็นโครงการที่สนับสนุนให้เยาวชนได้พัฒนาทักษะและเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำตามแนวพระราชดำริ เน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เยาวชนได้นำเทคโนโลยีและสารสนเทศมาใช้บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมทั้งพัฒนาทักษะในการประสานการพัฒนากับหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ ทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศ เพื่อนำไปสู่แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น