วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มูลนิธิโคคา–โคลาประเทศไทย ร่วมกับ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดโปรแกรม “รักน้ำ”

โค้กกระตุ้นจิตสำนึกชุมชนทั่วประเทศ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อให้การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเป็นไปอย่างยั่งยืน ตามแนวพระดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว มูลนิธิโคคา–โคลา ประเทศไทย จึงร่วมกับ มูลนิธิอุทกพัฒน์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดโปรแกรม “รักน้ำ” ให้การสนับสนุนการบริหารจัดการน้ำในชุมชนของตนเอง ที่ชุมชนบ้านลิ่มทอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์



กิจกรรมครั้งนี้ บุษยดา ยังเฟื่องมนต์ ผู้บริหารมูลนิธิโคคา-โคลาประเทศไทย กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย ได้ริเริ่มโปรแกรม “รักน้ำ” มาตั้งแต่ปี 2550 โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณมา 70 ล้านบาท ในช่วงระยะเวลาระหว่างปี 2555-2556 เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริฯ โดยกระตุ้นจิตสำนึก สร้างองค์ความรู้ อันนำไปสู่การจัดการทรัพยากร น้ำอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ ซึ่งการดำเนินงานของโปรแกรม “รักน้ำ” ครอบคลุมพื้นที่ที่ธุรกิจโคคา-โคลา ได้ใช้น้ำในการผลิตเครื่องดื่มใน 8 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง, นครสวรรค์, ขอนแก่น, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, ปทุมธานี, สุราษฎร์ธานี และสงขลา ชุมชนบ้านลิ่มทองเป็นหนึ่งในตัวอย่างชุมชนด้านความยั่งยืน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จอันเป็นรูปธรรม ด้วยความร่วมมือระหว่างเอกชน องค์กรภาครัฐ และชุมชน ในการน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ในการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนมาใช้ โดยการเก็บสำรองน้ำหลากไว้ในแก้มลิง เพื่อไว้ใช้ทำการเกษตรในฤดูแล้ง ช่วยบรรเทาความเสียหายของพื้นที่ไร่นา จากที่เคยมีหนี้สิน ชาวบ้านในชุมชนกลับมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีเงินออม สามารถพึ่งตนเองได้ และมีน้ำดื่มน้ำใช้ตลอดทั้งปี สำหรับกิจกรรมนี้เราได้ระดมพลังอาสาสมัครกว่า 700 คน ในโครงการอาสาสมัครพลังบวกกับโคคา-โคลา ที่มาจากพนักงานโคคา-โคลา เจ้าหน้าที่หน่วยงานพันธมิตร ผู้นำชุมชน และเยาวชนในท้องถิ่น มาร่วมพัฒนาปรับปรุงและอนุรักษ์แหล่งน้ำชุมชน ทำกิจกรรมทำความสะอาดคลองส่งน้ำ, ปลูกต้นไม้, ปลูกหญ้าแฝก และปล่อยพันธุ์ปลา ในบริเวณสระแก้มลิงและบริเวณคลองส่งน้ำ ระยะทางกว่า 5 กิโลเมตร

พร้อมกันนี้ ดร.รอยล จิตรดอน ผู้บริหารมูลนิธิ อุทกพัฒน์ฯ กล่าวถึงการจัดการน้ำชุมชนบ้านลิ่มทอง เริ่มตั้งแต่ปี 2549 โดยเริ่มสร้างระบบประปาผิวดิน เพิ่มแหล่งสำรองน้ำเพื่อการเกษตรให้กับชุมชน ด้วยการขุดสระแก้มลิง พัฒนาปรับปรุงคลองส่งน้ำ รวมถึงขุดคลองซอยเพื่อเชื่อมแหล่งน้ำ และติดตั้งระบบน้ำดื่มโรงเรียน ซึ่งช่วยให้นักเรียน ครู และบุคลากร มีน้ำดื่มที่สะอาด มีคุณภาพ ถูกสุข-อนามัย สามารถลดค่าใช้จ่ายในการดื่มได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น